วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เรื่องจริงของ 3 สาว -ออม ลงทุน ปลดหนี้

การ ลงทุนเริ่มจากการออม แต่บางคนยังหาวิธีออมไม่ได้ ลองดูตัวอย่าง 3 สาวผู้พลิกชะตาจากเป็นหนี้กลายมาเป็นทุนบ้างเป็นไง อาจจะยากหน่อยแต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

โดย. คุณ วรวรรณ ธาราภูมิ
CEO กองทุนบัวหลวง
3 สาว 3 วัย เธอทำอย่างไรถึงพ้นจากหนี้สิน

----------------------------------------------
10 พฤศจิกายน 2555
นิดา
-----
นิดาเคยเหนื่อยจากการหมุนเงินรายเดือนไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่พอกพูนจนรับ ไม่ไหวแล้ว แต่นิดาสามารถจ่ายหนี้คืนได้ทั้งหมด 800,000 บาท แล้วยังเริ่มมีเงินออมอีก 500,000 บาท หลังจากนั้นอีก 2 ปีด้วย

เธอทำได้อย่างไรกัน
สาวโสดวัย 32 ปีผู้นี้เล่าว่าเธอขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีไปถึง 3 ใน 4 รวมถึงกระเป๋าถือยี่ห้อต่างๆ หลายใบ รวมทั้งห้องในคอนโดที่ซื้อด้วยการผ่อนชำระ แล้วเอาเงินก้อนที่ได้ไปคืนหนี้ แล้วย้ายไปเช่าอพาร์ตเม้นท์ร่วมกับเพื่อนหญิงที่สนิทกันอีก 2 คน


3 สาวหารค่าใช้จ่ายในอพาร์ตเม้นท์เท่าๆ กัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเพื่อเป้าหมายของการล้างหนี้และมีเงินออม

การตัดสินใจแบบนี้ทำให้นิดาประหยัดค่าใช้จ่ายรายเดือนได้ถึงเดือนละ 18,000 บาท ทำให้มีเงินเก็บใน 2 ปีหลังจากนั้นประมาณ 500,000 บาท

นิดาบอกว่าอีก 2-3 ปี เธอถึงจะเริ่มหาที่อยู่ของตนเองอีกครั้ง


สรี
----
สรีอายุ 36 แต่งงานแล้ว ยังไม่มีบุตร และสองคนสามีภรรยาก็เหมือนชนชั้นกลางอย่างเราๆ ที่มีหนี้
แต่ด้วยความที่เธอกับสามีไม่ยึดติดกับหน้าตา ไม่เกี่ยงงาน และทำงานหนักได้ ดังนั้น นอกจากงานประจำเป็นลูกจ้างออฟฟิสแล้ว ทั้งสองคนรับงานเพิ่มอีก

สามีรับงานเพิ่มในช่วงค่ำและวันหยุดด้วยการขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารถึงบ้าน ลูกค้า ส่วนสรีรับจ้างทำความสะอาดบ้านและคอนโดในช่วงวันหยุด ความที่ กทม ขาดแคลนแรงงานแบบนี้ทำให้เธอมีงานล้นมือ และหลายครั้งเจ้าของบ้านก็ขอให้ช่วยดูแลคนชราหรือเด็กๆ ในบ้านเขา สอนการบ้านให้ลูกๆ ทำให้ได้รับเงินเพิ่มไม่น้อย

เพียง 3 ปีของความพียร ไม่เลือกงาน ทำให้สองสามีภรรยาในวันนี้มีชีวิตที่มั่นคง และพ้นจากการเป็นหนี้ไปได้

สรีบอกว่าในเมื่อเจ้าของบ้านกล้ารับคนต่างชาติที่พูดรู้เรื่องน้อยกว่าเธอมา ทำงานได้ ทำไมจะรับคนจบตรีมีงานออฟฟิสทำมั่นคงอย่างเธอไม่ได้ และเขายอมจ่ายมากกว่าบ้างเพื่อความสบายใจด้วย


วิมลวรรณ
-----------

วิมลวรรณ เป็นหนี้สินเพราะจ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากกว่าที่เธอหาได้ ถึงเธอจะโชคดีที่ไม่มีหนี้ที่อยู่อาศัยเพราะอยู่ในบ้านของพ่อแม่ แต่หนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคลที่เธอเอาไปซื้อเครื่องแต่งตัว เอาไปเที่ยวกลางคืน เอาไปเข้าฟิตเนส เอาไปทำศัลยกรรมความงาม และเอาไปท่องเที่ยวยุโรป ก็พอกพูนจนเธอเคยคิดจะไปเอาบ้านพ่อแม่ไปจำนอง เพื่อให้พ้นหนี้

โชคดีที่ยังไม่ทันทำ เพราะเราได้คุยกันก่อน

เราช่วยกันทำงบรายได้ รายจ่าย และสินทรัพย์ หนี้สิน ของเธอ แล้วเราก็พบวิธีควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยการลดมันลง กับเพิ่มรายได้ด้วยการขายของใช้ที่มีมากเกินเหตุออกไป ทำให้มีเงินก้อนไม่น้อยเลยที่เอาไปจ่ายลดหนี้ลงไปได้

รถยนต์ที่มีก็ขายไปซะ ใช้บริการรถไฟฟ้าแทน ทำให้ประหยัดไปได้มาก แถมยังทำให้เธอได้พบชายหนุ่มคนหนึ่งในระหว่างเดินทางด้วยรถไฟฟ้า จนคบหาดูใจกันมา 2 ปีแล้ว

นอกจากนี้ เธอก็ทำงานเพิ่ม จากเดิมที่ไม่เคยอยู่ทำโอที วิมลวรรณ ก็เริ่มทำ ในวันเสาร์เธอออกไปสอนดนตรีให้โรงเรียนดนตรีแห่งหนึ่งตามคำแนะนำของชายคนดี ที่เธอกำลังดูใจกัน ส่วนวันอาทิตย์เธอใช้เวลากับพ่อแม่ หรือชายผู้รู้ใจ

แค่เลิกใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เธอก็มีเงินเก็บได้แล้ว นี่ขายของที่ไม่จำเป็นออกไป และทำงานเพิ่มอีก ทำให้เธอปลดหนี้ได้ภายใน 2 ปี
เธอบอกว่าต้นเดือนมกราคมนี้ จะมีงานมงคลที่เรียบง่ายที่สุดกับชายหนุ่มผู้รู้ใจ ไม่มีพิธีอลังการงานสร้าง มีแต่พิธีเรียบง่าย คนไม่กี่คนที่รักสนิท และจัดในบ้าน

หลังแต่งงานแล้ว ฝ่ายชายจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเธอ เพราะวิมลวรรณเป็นลูกโทน ส่วนคอนโดที่ฝ่ายชายอยู่ในปัจจุบันนี้น ก็จะให้คนอื่นเช่า

วิมลวรรณ บอกว่า จากเดิมที่เครียดกับหนี้ วันนี้เธอมีความสุขกับการมีเงินออม และเอาไปลงทุนเพื่ออนาคต


และนี่คือ 3 ตัวอย่างจริงของ 3 สาวที่เราควรศึกษาไว้

หากเราเป็นหนี้ก็อย่าเพิ่งท้อเลยคนดี ขอแต่เพียงให้ขยัน สู้งาน และที่สำคัญที่สุดคือต้องทำแผนการเงิน แล้วเราจะหลุดพ้นจากหนี้ มีอิสรภาพทางการเงิน กับมีความมั่นคง จนเป็นสุขในชีวิตได้

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม